วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ขับรถเที่ยวประเทศเพื่อนบ้าน



ตัวเลขหลักกิโลเมตรบนหน้าปัด อยู่ที่ 5,000 บ่งบอกถึงสภาพการใช้งานของรถคันนี้ว่า เพิ่งวิ่งมาได้เพียง 5,000 กิโลเมตร นับตั้งแต่ที่ออกมาได้เมื่อเกือบ 6 เดือนก่อน

ผมซื้อรถคันนี้ เมื่อปลายเดือนกรกฏาคม พ.ศ.2552 แต่ช่วงที่ผ่านมา ยังไม่ได้ขับไปไกลมากนัก

ทั้งๆที่ความตั้งใจในการซื้อรถใหม่ เพราะอยากจะขับรถเล่นไปตามสถานที่ต่างๆ ที่เคยมั่นหมายเอาไว้ในใจมานานแล้ว

การเป็นคนชอบเที่ยว แต่ไม่ชอบเดินทางโดยเครื่องบิน เพราะคิดว่าการเดินทางโดยเครื่องบินทำให้สูญเสียโอกาสในการพบเห็นเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง


ผมจึงคิดว่าการขับรถเที่ยว คือการเดินทางท่องเที่ยวที่สนุก และมีโอกาสได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆมากที่สุด

แม้ว่าอาจใช้เวลานานไปบ้าง เหนื่อยเมื่อยล้าอยู่บ้าง แต่เรื่องราวที่ได้ประสพพบเห็นระหว่างทาง มีความน่าสนใจจนสามารถลดทอนอุปสรรคเหล่านั้นลงไปได้ไม่มีเหลือ

สถานที่ซึ่งมั่นหมายเอาไว้ และตั้งใจจะทำทันทีเมื่อมีโอกาส คือการตระเวนขับรถท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆของประเทศเพื่อนบ้าน

ทั้งลาว พม่า กัมพูชา และมาเลเซีย เป็น 4 ประเทศที่มีชายแดนติดกับประเทศไทย มีถนนหนทางที่เชื่อมต่อข้ามประเทศกันได้

การได้มีโอกาสออกไปขับรถชมเมืองในประเทศเพื่อนบ้านของเราเหล่านี้ โดยส่วนตัวของผมแล้ว มันคือ”กำไร”ชีวิตดีๆนี่เอง

เรื่องราวต่างๆที่ได้ประสพพานพบระหว่างการเดินทาง คือประสพการณ์ที่ผมจะนำมาแลกเปลี่ยน เล่าสู่ให้ทุกท่านได้อ่านกัน

เส้นทางสัญจรในประเทศเพื่อนบ้าน มีเรื่องราวหลากหลายให้เก็บเกี่ยวมาถ่ายทอดต่อ

จากจุดเริ่มต้น ที่หลักกิโลเมตร 5,000 บนหน้าปัด ในช่วงต้นปี 2553

เป้าหมายที่ตั้งใจจะขับรถไปเยือนเป็นแห่งแรก ก็คือ...

“หลวงพระบาง” เมืองมรดกโลกของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ความจริง จากประเทศไทย เราสามารถขับรถไปถึงหลวงพระบางได้อยู่แล้ว

เส้นทางที่คนส่วนใหญ่เคยชิน และนิยมขับรถไปกัน คือเส้นทางจากจังหวัดหนองคาย ข้ามแม่น้ำโขงผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว เข้าสู่นครหลวงเวียงจันทน์

จากนั้น ขับรถขึ้นไปตามเส้นทางสาย 13(เหนือ) ผ่านวังเวียง เมืองกาสี พูคูน ก่อนเข้าสู่หลวงพระบาง ระยะทางประมาณเกือบ 400 กิโลเมตร

เส้นทางตั้งแต่เมืองกาสีเป็นต้นไป เป็นเทือกเขาสูงชัน

แต่ผมเลือกใช้เส้นทางจากจังหวัดน่าน ออกจากประเทศไทยผ่านด่านห้วยโก๋น เข้าสู่เมืองเงิน แขวงไชยะบุรี


ด่านห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน

ตอนนั้น(ต้นปี 2553) การก่อสร้างถนนจากเมืองเงินไปยังเมืองปากแบ่ง ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปถึงหลวงพระบาง ระยะทางประมาณ 53 กิโลเมตร กำลังใกล้จะเสร็จ และก็เปิดให้รถวิ่งได้บ้างแล้ว


การก่อสร้างถนนสายเมืองเงิน-ปากแบ่ง ซึ่งเมื่อต้นปี 2553 กำลังใกล้จะแล้วเสร็จ

จากเมืองเงิน ซึ่งอยู่ในแขวงไชยะบุรี ขับรถไปประมาณ 38 กิโลเมตร จะถึงเมืองปากห้วยแคน ซึ่งอยู่ในแขวงไชยะบุรีเช่นกัน มีแม่น้ำโขงขวางกั้นอยู่ข้างหน้า

ที่จุดนี้จำเป็นต้องข้ามเรือบั๊ก(แพขนานยนต์) เพื่อข้ามไปยังเมืองปากแบ่งที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม


ท่าเรือบั๊กข้ามจากเมืองปากห้วยแคน ไปสู่เมืองปากแบ่ง


เมื่อข้ามแม่น้ำโขงมาแล้ว เส้นทางเข้าสู่ตัวเมืองปากแบ่งระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นถนนเลียบแม่น้ำโขงตลอดแนว

เมืองปากแบ่ง อยู่ในแขวงอุดมไชย ซึ่งเป็นแขวงที่อยู่ติดกันทางทิศตะวันตกของแขวงหลวงพระบาง

ถนนที่ผมใช้ เป็นเส้นทางหมายเลข 2 ของลาว ทิศทางของถนนสายนี้วิ่งตัดจากชายแดนไทย ขวางประเทศลาวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ


จากเมืองปากแบ่ง เมื่อวิ่งไปสักประมาณ 100 กิโลเมตรเศษ จะพบกับเมืองไชย ซึ่งเป็นเมืองหลักของแขวงอุดมไชย


ถนนสายนี้ ผ่านชุมชนหลายหมู่บ้าน หลากชนเผ่า ทั้งที่เป็นลาวลุ่ม ลาวเทิง และลาวสูง



สี่แยกที่เมืองไชย ซึ่งมีเส้นทางไปเชื่อมต่อพรมแดนลาวได้ถึง 3 ประเทศ

ที่เมืองไชย จะพบกับสี่แยก หากตรงไป จะเป็นเส้นทางหมายเลข 4 ตรงสู่เมืองใหม่ เมืองชายแดนลาว-เวียดนาม ที่มีถนนข้ามชายแดนต่อไปได้ถึงเมืองเดียนเบียนฟู

หากเลี้ยวซ้าย จะเป็นเส้นทางหมายเลข 13(เหนือ) วิ่งขึ้นเหนือไปสู่แขวงหลวงน้ำทา จนถึงเมืองบ่อเต็น เมืองชายแดนลาว-จีน ที่มีถนนเชื่อมต่อไปถึงเมืองเชียงรุ่ง สิบสองปันนา และนครคุนหมิง มณฑลหยุนหนัน


หากเลี้ยวขวา ยังคงเป็นเส้นทางสาย 13(เหนือ)เช่นกัน แต่เป็นถนนที่วิ่งลงใต้ เข้าสู่หลวงพระบาง และนครหลวงเวียงจันทน์


ระยะทางจากเมืองไชย สู่เมืองหลวงพระบาง ประมาณกว่า 170 กิโลเมตร แต่เป็นเส้นทางที่วิ่งเลาะเลี้ยวอยู่บนเขาเสีย 90 กิโลเมตร


เมื่อลงจากเขา จะพบกับสามแยกน้ำบาก หากตรงไปจะผ่านเมืองน้ำบาก และสามารถเดินทางต่อไปถึงเมืองซำเหนือ แขวงหัวพัน ซึ่งเป็นเมืองสำคัญในประวัติศาสตร์การต่อสู้ของคนลาว


แต่หากจะไปหลวงพระบาง ต้องเลี้ยวขวาที่สามแยกนี้ เพื่อเดินทางต่อมาตามถนนสาย 13(เหนือ) ซึ่งเส้นทางส่วนใหญ่จะราบเรียบมากกว่าในช่วงแรก


บางช่วงของถนน จะวิ่งเลียบกับแม่น้ำอู


แม่น้ำอู
หากวิ่งรวดเดียว จากหน้าด่านห้วยโก๋น เข้าสู่เมืองเงิน ผ่านเมืองปากแบ่ง เมืองไชย สามแยกน้ำบาก ลงมาจนถึงเมืองหลวงพระบางแล้ว น่าจะใช้เวลาประมาณไม่เกิน 6 ชั่วโมง

แต่ผมไม่ใช้วิธีนี้!!!


ผมเลือกที่จะแวะตามรายทางเพื่อเก็บเกี่ยวเรื่องราวต่างๆ เพื่อนำมาถ่ายทอด


ระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตร จากชายแดนไทย มาถึงเมืองหลวงพระบาง ต้องผ่านชุมชน หมู่บ้าน ได้พบเห็นอะไรหลายๆอย่างที่น่ารัก น่าสนใจ และมีเสน่ห์


และการเดินทางของผม มิใช่มีเพียงหลวงพระบางเป็นเป้าหมายเดียว


ในดินแดนประเทศเพื่อนบ้าน ยังมีเรื่องราวอีกหลากหลายกำลังจะถูกถ่ายทอดต่อ


การเดินทางของผมได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ขอเชิญทุกท่าน ร่วมเดินทางไปพร้อมกันได้เลยครับ…..


1 ความคิดเห็น:

  1. นี่แหละที่รอดูอยู่.......ภาษาเขียนก็อ่านเข้าใจง่ายๆดี บรรยากาสก็โอเคนะ ลีลาชวนให้ติดตาม....อ้าวยกแก้วเพื่อน

    ตอบลบ